สถานการณ์น่าตกใจเชื้อโนโรไวรัส กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียน หลังพบการระบาดใน 2 โรงเรียนที่จังหวัดระยอง พบผู้ติดเชื้อแล้วถึง 1,436 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน โดยนายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ที่น่ากังวลนี้ โดยระบุว่าการระบาดครั้งนี้มีต้นตอมาจากการปนเปื้อนของเชื้อโนโรไวรัสในน้ำ และน้ำแข็ง ที่ใช้บริโภคในช่วงกิจกรรมกีฬาสีของโรงเรียน ทำให้เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในวงกว้าง ซึ่งโนโรไวรัสไม่ใช่เชื้อโรคธรรมดา แต่เป็นไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ เพียงแค่สัมผัสกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ สัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อน หรือแม้แต่หายใจเอาเชื้อที่ฟุ้งกระจายในอากาศเข้าไป ก็สามารถติดเชื้อได้แล้ว! ยิ่งไปกว่านั้น สภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เชื้อแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นโดยระยะฟักตัวของโนโรไวรัสก็สั้นมาก เพียงแค่ 12 – 48 ชั่วโมงหลังได้รับเชื้อ ก็จะเริ่มแสดงอาการ ทำให้การแพร่ระบาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ควบคุมได้ยาก ซึ่งในกลุ่มเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานต่ำกว่าผู้ใหญ่ ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ และมีอาการรุนแรงมากกว่า การระบาดมักเกิดขึ้นในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น โรงเรียน ภัตตาคาร โรงพยาบาล สถานเลี้ยงเด็ก หรือแม้แต่ในรถหรือเรือท่องเที่ยว สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ โนโรไวรัสมีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อความร้อนและยาฆ่าเชื้อต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แม้แต่เจลแอลกอฮอล์ที่เราใช้กันทั่วไปก็ไม่สามารถฆ่าเชื้อชนิดนี้ได้ ทำให้การป้องกันทำได้ยากยิ่งขึ้น โดยอาการของโนโรไวรัสที่พบบ่อย คือ อาการท้องเสียอย่างรุนแรง อาเจียน ปวดท้อง และอาจมีไข้ร่วมด้วย อาการเหล่านี้อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียอย่างมาก โดยเฉพาะในเด็กเล็ก อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำที่อันตรายถึงชีวิตได้
โนโรไวรัสเชื้อร้ายใกล้ตัวพร้อมวิธีรับมือ
1. อาหารและน้ำปนเปื้อน การรับประทานอาหารดิบ อาหารทะเลที่ไม่ปรุงสุก ผักผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด หรือแม้แต่น้ำแข็งที่มีเชื้อปนเปื้อน ก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้
2. การสัมผัสพื้นผิวปนเปื้อน การสัมผัสสิ่งของต่างๆ เช่น ที่จับประตู โต๊ะ หรือเครื่องใช้สาธารณะ ที่มีเชื้อโนโรไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งของการแพร่เชื้อ
3. การสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง การใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย การดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หรือแม้แต่การหายใจเอาละอองเชื้อที่ผู้ป่วยแพร่ออกมา ก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้
เมื่อติดเชื้อโนโรไวรัสจะเกิดอะไรขึ้น
1. ท้องเสียอย่างรุนแรง
2. อาเจียน
3. ปวดท้อง
4. อาจมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วย
การรักษาโนโรไวรัส
1. ให้ยาแก้อาเจียนเพื่อลดอาการคลื่นไส้ และอาเจียน
2. ให้น้ำเกลือแร่หรือน้ำเกลือทางหลอดเลือดดำในกรณีที่ร่างกายขาดน้ำ
3. การใช้ยาปฏิชีวนะไม่ได้ผลกับการรักษาโนโรไวรัส เนื่องจากโนโรไวรัสเป็นไวรัส ไม่ใช่แบคทีเรีย
วิธีป้องกันโนโรไวรัส
1. ล้างมือให้สะอาด ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้ง หลังเข้าห้องน้ำ ก่อนรับประทานอาหาร และหลังสัมผัสผู้ป่วย
2. เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุก หลีกเลี่ยงอาหารดิบ อาหารทะเลที่ไม่สุก และล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน
3. ใช้ช้อนกลาง ในการรับประทานอาหารร่วมกัน
4. ทำความสะอาดพื้นผิว ทำความสะอาดพื้นผิวและสิ่งของที่สัมผัสบ่อย ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น