งานสังสรรค์บนโต๊ะอาหารของคนญี่ปุ่นทุกวันที่ 25 ธันวาคม แทนที่ไก่งวงอบแต่ปรากฎการณ์ใหม่เป็นภาพผู้คนต่อแถวยาวเหยียดหน้าร้าน KFC เพื่อซื้อไก่ทอด เรื่องแปลกแต่จริงที่เกิดขึ้นในแดนปลาดิบแห่งนี้ทุกปี กับการเฉลิมฉลองถังปาร์ตี้ไก่ทอดจนกลายเป็นกระแสฮิตทั่วประเทศด้วยแคมเปญสุดปังว่า “คริสต์มาสนี้ที่เคเอฟซี” ย้อนกลับไปในช่วงปี พ.ศ. 2513 ยุคที่ร้านไก่ทอดจากอเมริกาเริ่มบุกตลาดญี่ปุ่น โดยเปิดสาขาแรกในงาน Japan World Exposition Osaka ดังเป็นพลุแตกไก่ทอดกลายเป็นอาหารสุดฮิต ใครไม่รู้จักถือว่าเชยระเบิด โดยบังเอิญว่าช่วงนั้นมีชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นอยากฉลองคริสต์มาส แต่หาไก่งวงยากมากกกก เลยพลิกแพลงมาใช้ไก่ทอดแทนซะเลยและเหมือนฟ้าเป็นใจ เพราะมันดันเข้ากับแผนการตลาดของร้านไก่ทอดพอดีเป๊ะ ทีนี้โจทย์ใหญ่ของร้านไก่ทอด คือ จะทำยังไงให้การตลาดโดยใช้เทศกาลคริสต์มาสประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น เพราะว่าคนญี่ปุ่นไม่ได้อินกับคริสต์มาสเท่าไหร่ แถมบางคนก็มองว่ากินไก่ทอดในวันคริสต์มาสมันแปลกๆ ด้วยกลยุทธที่ฉลาดในการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องทุกปี จนกลายเป็นกระแสฮิตในหมู่วัยรุ่นแบบปากต่อปาก Viral Marketing ถึงแม้จะไม่เข้าใจความหมายของการกินไก่ทอดในวันคริสต์มาส แต่แค่เห็นโฆษณาก็อยากกินตามแล้ว!
โดยการโฆษณาของร้านไก่ทอดสร้างภาพลักษณ์ให้ไก่ทอดกลายเป็นอาหารสุดคูล เท่ เก๋ ใครกิน คือ อินเทรนด์ตอกย้ำภาพจำว่าการกินไก่ในช่วงคริสต์มาสเป็นธรรมเนียมของชาวตะวันตก ทำให้คนญี่ปุ่นนึกถึงไก่ทอดทันทีที่พูดถึงคริสต์มาส จากนั้นเป็นต้นมา การกินไก่ทอดกับครอบครัวในวันคริสต์มาสก็กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนญี่ปุ่นไปซะแล้ว และแน่นอนว่า ช่วงคริสต์มาสก็เป็นช่วงที่ร้านไก่ทอดทำกำไรได้มากที่สุดในรอบปี ถ้าเห็นกลยุทธ์การตลาดสุดแพรวพราวของร้านไก่ทอดในช่วงคริสต์มาส ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะในญี่ปุ่นคริสต์มาสกับไก่ทอดคือของคู่กันไปแล้วเหมือนปาท่องโก๋กับกาแฟ หรือหมูปิ้งกับข้าวเหนียวที่มันอร่อยเข้ากันได้อย่างลงตัว ปัจจุบันร้านไก่ทอดเคเอฟซีในญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ไก่ทอดอย่างเดียว แต่ยังมีเมนูหลากหลาย เช่น ไก่ย่าง เค้ก และไวน์ ให้เลือกสรรตามความชอบในแพ็คเกจ “คริสต์มาสนี้ที่เคเอฟซี” จำหน่ายพร้อมเครื่องเคียง ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,270 บาท หรือ 5,800 เยน อัตราแลกเปลี่ยนเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 แม้บางคนอาจมองว่ามันดูแปลก แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว การกิน KFC ในวันคริสต์มาสเป็นเหมือนการรวมญาติ พบปะเพื่อนฝูง และฉลองเทศกาลแห่งความสุข ไม่ต่างจากความหมายที่แท้จริงของคริสต์มาสเลย เรื่องราวแปลกแต่จริงที่เป็นปรากฎการณ์ #กำลังมาแรง ของญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างของการตลาดที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้เห็นว่าการเข้าใจวัฒนธรรม ความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ และบางครั้งการแหกกฎเดิมๆ ก็อาจสร้างปรากฏการณ์ใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ