ท่ามกลางความเงียบสงัดของรุ่งสางวันอาทิตย์ แสงแรกของวันใหม่ค่อยๆ สาดส่องผ่านม่านหมอกบางๆ ที่ปกคลุมลานกว้าง ละอองน้ำค้างเกาะพราวบนใบหญ้าสะท้อนแสงระยิบระยับ อาจารย์เทพยืนอยู่ ณ จุดศูนย์กลาง ล้อมรอบด้วยความเงียบงันที่น่าขนลุก มือถือธูป 18 ดอก กลิ่นควันโชยอ่อนๆ ลอยวนเวียนในอากาศที่เย็นเยียบ แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องลงมาต้องร่างของอาจารย์เทพ ทำให้เงาของเขาทอดยาวไปบนพื้นหญ้า ราวกับมีอีกร่างหนึ่งซ้อนอยู่ บรรยากาศโดยรอบวังเวงอย่างประหลาด ลมพัดเบาๆ ผ่านต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ที่ยืนต้นอยู่รอบลาน ทำให้เกิดเสียงเสียดสีของกิ่งไม้ ราวกับเสียงกระซิบแผ่วเบาจากโลกอื่น ความเงียบที่ปกคลุมอยู่ทำให้ทุกสิ่งดูเหมือนหยุดนิ่ง ราวกับเวลาได้หยุดเดิน
อาจารย์เทพหลับตาลง รวบรวมจิตใจให้สงบ ลมหายใจของเขาแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ ก่อนจะเริ่มกล่าวคำขอขมากรรม เสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย แต่กลับก้องกังวานในความเงียบ ราวกับเสียงสะท้อนจากห้วงเวลาอันไกลโพ้น “ข้าพเจ้าขอน้อมกาย วาจา ใจ กราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เทพเทวาอารักษ์ ครูบาอาจารย์ บิดามารดา ญาติสนิทมิตรสหาย และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย” เสียงของอาจารย์เทพดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีเสียงอื่นแทรกซ้อนเข้ามา เสียงกระซิบที่แผ่วเบาในตอนแรกเริ่มดังขึ้น ราวกับมีผู้ร่วมกล่าวคำขอขมาอยู่ด้วย อุณหภูมิรอบๆ ตัวอาจารย์เทพเริ่มเย็นลงอย่างรู้สึกได้ ละอองน้ำค้างบนใบหญ้าเริ่มจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ
“ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าขอน้อมรับความผิดทั้งปวง ที่ได้กระทำล่วงเกินต่อท่านทั้งหลาย ทั้งโดยตั้งใจก็ดี มิได้ตั้งใจก็ดี ทั้งในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ขอท่านทั้งหลายโปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า” เมื่ออาจารย์เทพกล่าวจบ เสียงกระซิบก็เงียบลงทันที ความเงียบกลับคืนมาอีกครั้ง แต่เป็นความเงียบที่แตกต่างจากเดิม เป็นความเงียบที่หนักอึ้งและน่าขนลุก อาจารย์เทพค่อยๆ ลืมตาขึ้น แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาบนใบหน้าของเขา เผยให้เห็นแววตาที่ว่างเปล่าราวกับวิญญาณได้หลุดลอยไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้น ลมก็พัดแรงขึ้น กิ่งไม้เสียดสีกันดังกว่าเดิม และเงาของอาจารย์เทพก็สั่นไหว ราวกับมีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังเขา แต่เมื่อมองไป ก็ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น นอกจากความว่างเปล่าและความเงียบงันที่น่าขนลุก
ความน่ากลัวของการไม่ขอขมากรรม
• เจ้ากรรมนายเวร เชื่อว่าหากเราเคยทำไม่ดีกับใครไว้ในอดีตชาติหรือชาติปัจจุบัน หากไม่ขอขมา พวกเขาเหล่านั้นอาจตามมาทวงคืนในรูปแบบต่างๆ เช่น อุปสรรคในชีวิต ความเจ็บป่วย หรือความทุกข์ใจ
• บาปกรรม การกระทำที่ไม่ดีของเราจะติดตัวไป เปรียบเสมือนภาระทางจิตใจที่ทำให้ชีวิตไม่ราบรื่น
• พลังงานลบ การไม่ขอขมาอาจทำให้เกิดพลังงานลบสะสมในตัวเรา ส่งผลต่อจิตใจ อารมณ์ รวมถึงการใช้ชีวิตซึ่งอย่างไรก็ตาม ความเชื่อเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการพิจารณา
วิธีเตรียมเครื่องขอขมากรรม
1. เตรียมธูป 18 ดอก และมีดอกไม้พวงมาลัย 1 อย่าง
2. จุดธูปกลางแจ้งในวันอาทิตย์ ควรเลือกเวลาที่เหมาะสมก่อนเที่ยงวัน เช่น ช่วงเช้า หรือช่วงที่อากาศถ่ายเทสะดวก
3. ตั้งจิตอธิษฐาน ระลึกถึงสิ่งที่เราต้องการขอขมา อาจเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากรรมนายเวร บิดามารดา ครูบาอาจารย์ หรือบุคคลที่เราเคยล่วงเกิน
4. กล่าวคำขอขมา อาจใช้บทสวดขอขมาทั่วไป หรือกล่าวด้วยภาษาของตนเอง โดยเน้นความสำนึกผิดและตั้งใจที่จะปรับปรุงตัว
5. ขออโหสิกรรม ขอให้สิ่งที่เคยทำผิดพลาดได้รับการอโหสิกรรม
บทคำกล่าวขอขมากรรม
ข้าพเจ้า (ชื่อ-นามสกุล) ขอตั้งจิตอธิษฐาน ขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำผิดพลาด ล่วงเกิน ทั้งโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ทั้งกาย วาจา ใจ ขอท่านทั้งหลายโปรดอโหสิกรรม ยกโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด และขอให้ข้าพเจ้าเริ่มต้นปีใหม่ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ปราศจากทุกข์โศก โรคภัย และอุปสรรคทั้งปวง
ในบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ อาจารย์เทพได้กล่าวถึงการขอขมากรรมในคืนวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พลังงานแห่งการชำระล้างนั้นเข้มข้นที่สุด อาจารย์เทพได้อธิบายถึงความสำคัญของการจุดธูป 18 ดอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขอขมาต่อเทพยดาทั้ง 18 ชั้นฟ้า และการกล่าวคำขอขมาด้วยจิตใจที่แน่วแน่และสำนึกผิดอย่างแท้จริง จะช่วยชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ พร้อมรับพลังงานดีๆ ในปีใหม่ แต่สิ่งที่อาจารย์เทพได้กล่าวต่อไปนั้น สร้างความขนลุกและชวนให้สงสัยยิ่งกว่า อาจารย์เทพกล่าวว่า ในคืนวันอาทิตย์ที่เงียบสงัด หากใครได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบา หรือสัมผัสได้ถึงลมเย็นที่พัดผ่านโดยไม่มีที่มา นั่นอาจเป็นสัญญาณของการมาเยือนของเจ้ากรรมนายเวรที่รอคอยการอโหสิกรรม การขอขมากรรมในคืนนั้น จะเป็นการปลดปล่อยพันธนาการที่ผูกมัดดวงวิญญาณ และเปิดทางให้ชีวิตพบกับความสุขและความเจริญ
อาจารย์เทพยังได้เล่าถึงประสบการณ์ของลูกศิษย์หลายคนที่ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากการขอขมากรรมอย่างถูกต้องและตั้งใจจริง บางคนหายจากโรคภัยไข้เจ็บ บางคนธุรกิจที่เคยซบเซากลับมารุ่งเรือง และบางคนพบกับความสงบสุขในจิตใจที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เรื่องราวเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงพลังแห่งการขอขมากรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นได้จริง
วิธีเตรียมเครื่องขอขมากรรม
1. เตรียมธูป 18 ดอก และมีดอกไม้พวงมาลัย 1 อย่าง
2. จุดธูปกลางแจ้งในวันอาทิตย์ ควรเลือกเวลาที่เหมาะสมก่อนเที่ยงวัน เช่น ช่วงเช้า หรือช่วงที่อากาศถ่ายเทสะดวก
3. ตั้งจิตอธิษฐาน ระลึกถึงสิ่งที่เราต้องการขอขมา อาจเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากรรมนายเวร บิดามารดา ครูบาอาจารย์ หรือบุคคลที่เราเคยล่วงเกิน
4. กล่าวคำขอขมา อาจใช้บทสวดขอขมาทั่วไป หรือกล่าวด้วยภาษาของตนเอง โดยเน้นความสำนึกผิดและตั้งใจที่จะปรับปรุงตัว
5. ขออโหสิกรรม ขอให้สิ่งที่เคยทำผิดพลาดได้รับการอโหสิกรรม
บทคำกล่าวขอขมากรรม
ข้าพเจ้า (ชื่อ-นามสกุล) ขอตั้งจิตอธิษฐาน ขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำผิดพลาด ล่วงเกิน ทั้งโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ทั้งกาย วาจา ใจ ขอท่านทั้งหลายโปรดอโหสิกรรม ยกโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด และขอให้ข้าพเจ้าเริ่มต้นปีใหม่ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ปราศจากทุกข์โศก โรคภัย และอุปสรรคทั้งปวง
ในบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ อาจารย์เทพได้กล่าวถึงการขอขมากรรมตั่งแต่รุ่งเช้าหัววันอาทิตย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พลังงานแห่งการชำระล้างนั้นเข้มข้นที่สุด อาจารย์เทพได้อธิบายถึงความสำคัญของการจุดธูป 18 ดอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขอขมาต่อเทพยดาทั้ง 18 ชั้นฟ้า และการกล่าวคำขอขมาด้วยจิตใจที่แน่วแน่และสำนึกผิดอย่างแท้จริง จะช่วยชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ พร้อมรับพลังงานดีๆ ในปีใหม่ แต่สิ่งที่อาจารย์เทพได้กล่าวต่อไปนั้น สร้างความขนลุกและชวนให้สงสัยยิ่งกว่า อาจารย์เทพกล่าวว่า ในเช้าวันอาทิตย์ที่เงียบสงัด หากใครได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบา หรือสัมผัสได้ถึงลมเย็นที่พัดผ่านโดยไม่มีที่มา นั่นอาจเป็นสัญญาณของการมาเยือนของเจ้ากรรมนายเวรที่รอคอยการอโหสิกรรม การขอขมากรรมในวันนี้จะเป็นการปลดปล่อยพันธนาการที่ผูกมัดดวงวิญญาณ และเปิดทางให้ชีวิตพบกับความสุขและความเจริญ
อาจารย์เทพยังได้เล่าถึงประสบการณ์ของลูกศิษย์หลายคนที่ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากการขอขมากรรมอย่างถูกต้องและตั้งใจจริง บางคนหายจากโรคภัยไข้เจ็บ บางคนธุรกิจที่เคยซบเซากลับมารุ่งเรือง และบางคนพบกับความสงบสุขในจิตใจที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เรื่องราวเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงพลังแห่งการขอขมากรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นได้จริง