อาจารย์เทพว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงตำนานโบราณ แต่เป็นเรื่องที่สะท้อนถึงค่านิยม และความเชื่อของสังคมไทยที่ยังคงอยู่อยากให้ลองคิดดูว่า เรื่องปู่โสมเฝ้าทรัพย์สอนให้เรารู้จักความซื่อสัตย์สุจริต สอนให้เราเคารพในกฎหมาย และไม่ให้โลภในทรัพย์สมบัติที่ไม่ใช่ของตน ซึ่งอาจารย์เทพจะพาทุกท่านย้อนกลับไปในราวปี พ.ศ. 2500 เหตุการณ์ที่วัดราชบูรณะ บอกเลยว่าวัดนี้ไม่ใช่แค่วัดธรรมดา แต่เป็นอดีตวัดสำคัญที่เก็บซ่อนความลับ รวมถึงทรัพย์สมบัติมหาศาลไว้ใต้ดิน ให้ลองจินตนาการถึงภาพของขุมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยทองคำ อัญมณี และวัตถุโบราณล้ำค่าตามไปพร้อมกัน แต่แล้วก็มีกลุ่มโจรใจบาป พวกเขาคิดจะขโมยสมบัติเหล่านี้ อาจารย์เทพเชื่อว่าพวกเขาคงคิดว่าตัวเองแน่ คิดว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเขาได้ ซึ่งใช้เวลาถึง 3 วัน 3 คืนในการขุดเจาะ ถ้าเจอทรัพย์สมบัติคงดีใจแค่ไหนตอนแต่หารู้ไม่ว่าพวกเขากำลังเล่นกับสิ่งที่ไม่ควรเล่น โดยทันทีที่พวกเขานำสมบัติออกมา ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นกับ “พระแสงขรรค์ชัยศรี” ที่เปล่งแสงออกมาเป็นแสงแห่งความโกรธแค้นของวิญญาณผู้พิทักษ์ทรัพย์สมบัติ ท้องฟ้าก็พลันมืดครึ้ม แปรปรวน ราวกับธรรมชาติกำลังโกรธเกรี้ยวนี่เป็นสัญญาณเตือนที่น่ากลัว
หลังจากนั้น โจรคนหนึ่งก็ปรากฏตัวในสภาพเมามายไม่ได้สติที่ไม่ใช่แค่เมาธรรมดา แต่เป็นเพราะโดนอาถรรพ์เล่นงาน เขาพูดจาวกวน สับสน สารภาพว่าตัวเองเป็นคนขโมยของ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะ ต่อจากนั้นสิ่งที่น่ากลัวกว่ากำลังไล่ตามไปเกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขอบอกว่าแต่ละคนเจอเรื่องที่น่าสยดสยองทั้งนั้น บางคนเสียสติไปร่ายรำดาบกลางตลาดซึ่งคงจะน่ากลัวมาก เหมือนคนถูกผีเข้าสิง ร้านทองที่รับซื้อของโจรก็ต้องเจ๊ง เพราะว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะอาถรรพ์ของปู่โสมเฝ้าทรัพย์
อาจารย์เทพเชื่อว่าปู่โสมเฝ้าทรัพย์ไม่ใช่แค่ชื่อ แต่เป็นวิญญาณที่คอยปกป้องสมบัติของชาติอย่างแท้จริง ซึ่งปู่โสมเฝ้าทรัพย์คงไม่อาจทนเห็นพวกโจรมาลบหลู่สมบัติเหล่านี้ได้ จึงได้แสดงอิทธิฤทธิ์ลงโทษพวกคนชั่วให้เป็นอุทาหรณ์ที่น่ากลัวสำหรับคนที่คิดจะทำบาป และอยากจะฝากไว้ว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป้นเพียงแค่ตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาแต่ต้องเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น ขอให้จำไว้ว่าการลักขโมยของวัด หรือสมบัติของชาติเป็นบาปกรรมหนัก อาจนำมาซึ่งความหายนะได้
ของไหว้บูชาปู่โสมเฝ้าทรัพย์
● ธูป นิยมใช้ธูป 5 ดอก เป็นสัญลักษณ์แทนพระองค์ หรืออาจใช้ธูปตามจำนวนที่สถานที่นั้นๆ กำหนด
● เทียน นิยมใช้เทียน 1 คู่ หรือตามจำนวนที่สถานที่นั้นๆ กำหนด เพื่อความเป็นสิริมงคลและแสงสว่างนำทาง
● ดอกไม้ นิยมใช้ดอกดาวเรือง ดอกบัว หรือดอกไม้มงคลอื่นๆ เพื่อความสวยงามและเป็นสิริมงคล
● น้ำเปล่า 1 ขวด หรือ 1 แก้ว เพื่อเป็นเครื่องบูชาพื้นฐาน แสดงถึงความบริสุทธิ์และความเคารพ
● ผลไม้ นิยมใช้ผลไม้มงคล เช่น กล้วย ส้ม แอปเปิล หรือผลไม้ตามฤดูกาล
● หมากพลู บางความเชื่อมีการใช้หมากพลูในการบูชา
● บุหรี่ ในบางสถานที่ แต่ควรสอบถามเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลสถานที่ก่อน
● เงิน อาจมีการถวายเงินเพื่อร่วมทำบุญ
● สิ่งอื่นๆ บางครั้งอาจมีการถวายสิ่งของอื่นๆ เช่น ขนมหวานไทยมงคล หรือสิ่งของที่เชื่อว่าปู่โสมชื่นชอบ
คาถาไหว้ปู่โสมเฝ้าทรัพย์
ตั้งจิตมั่น สวดนะโม 3 จบ ให้ว่าคาถาตามนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
โอม ปู่โสมะ เทวะตา มหาลาโภ สัพพะสิทธิ ภะวันตุ เม
จากนั้น ตั้งมั่นจิตสวดภาวนาขอพรตามปรารถนา
ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ไม่ใช่แค่ผีหรือวิญญาณที่คอยเฝ้าสมบัติ แต่เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจที่มองไม่เห็น พลังที่คอยรักษาสมดุลของโลก พลังที่ลงโทษคนชั่ว ปกป้องคนดี ความเชื่อเรื่องปู่โสมเฝ้าทรัพย์สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมของสังคมไทยในอดีต ที่ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญู และความเคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตามตำนานปู่โสมเฝ้าทรัพย์มีรากฐานมาจากความเชื่อเรื่องเจ้าที่เจ้าทาง หรือเทพารักษ์ที่คอยปกปักรักษาดูแลสถานที่ต่างๆ อาจารย์เทพว่าความเชื่อเหล่านี้เป็นสากล มีอยู่ในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก แสดงให้เห็นว่ามนุษย์มีความเชื่อในพลังเหนือธรรมชาติที่คอยควบคุมความเป็นไปของโลก
กรณีของวัดราชบูรณะนั้น อาจารย์เทพเชื่อว่าปู่โสมเฝ้าทรัพย์เป็นตัวแทนของวิญญาณบรรพบุรุษที่คอยปกป้องรักษาสมบัติของชาติ โดยสมบัติเหล่านี้ไม่ใช่แค่ทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของชาติในอดีต การลักขโมยสมบัติเหล่านี้จึงถือเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นบรรพบุรุษและทำลายมรดกของชาติ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มโจรที่พวกเขาได้รับเคราะห์กรรมต่างๆ ไม่ใช่แค่เพราะว่าอาถรรพ์ของปู่โสมเฝ้าทรัพย์อย่างเดียว แต่เป็นเพราะผลกรรมที่พวกเขาได้กระทำด้วยตามกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วจึงเป็นไปตามกรรมของตน เรื่องนี้จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้คนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์สุจริต การเคารพในกฎหมาย รวมถึงการไม่โลภในทรัพย์สมบัติที่ไม่ใช่ของตน การทำความดีจะนำมาซึ่งความสุข และความเจริญ แต่การทำความชั่วจะนำมาซึ่งความทุกข์ประสบแต่ความหายนะ ขอให้ทุกท่านจงโชคดี เทอญ.. สาธุ